อ่านแล้วรวย วันนี้ที่จะเล่าเป็นเรื่องเนื้อๆเน้นๆครับ เพราะคนที่เลือกลงทุนแฟรนไชส์เกือบ 90%เป็นการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ครั้งแรก ดังนั้นต้องบอกต้องเตือนก่อนตัดสินใจซื้อ มีอะไรบ้างหรือครับ
กฎต้องห้ามในการเลือกซื้อแฟรนไชส์
มีเหตุเกิดขึ้นในหลายกรณีที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์มักถูกหลองลวงจากผู้ที่ตั้งตัวเป็นผู้ขายแฟรนไชส์ โดยที่เบื้องหลังไม่ได้มีธุรกิจอะไรเลย หรือในบางกรณีคือ เมื่อซื้อแฟรนไชส์แล้วกลับไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง จึงเกิดเป็นกรณีพิพาทตามมาในภายหลังได้ ดังนั้นข้อแนะนำเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์กับท่านได้
ต้องยอมรับว่าต้นเหตุของความผิดพลาดประการหนึ่งนั้น เกิดขึ้นจากตัวผู้ซื้อแฟรนไชส์เองที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน ซึ่งอันที่จริงการที่จะตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ใดๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากลองพิจารณาตามเกณฑ์นี้
มีหลายคนที่ตกลงปลงใจซื้อแฟรนไชส์จากกระดาษ 2-3 ใบ หรือจากคำพูดชวนเชื่อ ทั้งๆ ที่การลงทุนนั้นเป็นหลักหมื่นหลักแสนขึ้นไป โดยไม่เคยย่างกรายเข้าไปเยี่ยมชมบริษัทนั้น นี่คือความผิดพลาดที่ไม่อาจจะโทษใครได้ เพราะก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ใดๆ นั้น อย่างน้อยที่สุดผู้ซื้อจะต้องเข้าไปที่บริษัทนั้นเพื่อดูด้วยตาของตัวเองว่า เป็นบริษัทที่มีความมั่นคงหรือไม่ เปิดมานานเท่าไรแล้ว มีพนักงานกี่คน แต่ละคนทำอะไรบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อให้มั่นใจในระดับหนึ่งว่าบริษัทนั้นๆ มีตัวตนอยู่จริง
ผู้ที่จะขายแฟรนไชส์ได้ย่อมต้องมีธุรกิจที่เปิดขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทอยู่จริงก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จนกว่าผู้ซื้อจะได้เข้าไปดูร้านที่เปิดดำเนินการขึ้นมาแล้วว่ามีคนมาใช้บริการหรือไม่ มากน้อยเพียงใด บริษัทมีร้านของตัวเองอยู่ที่ไหนบ้าง และมีร้านของแฟรนไชส์อยู่ที่ไหนบ้าง ยิ่งหากมีโอกาสไปเยี่ยมชมมากเท่าไร ผู้ซื้อก็จะยิ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองมากเท่านั้น
ในการไปเยี่ยมชมกิจการแต่ละครั้ง อย่างน้อยที่สุดผู้ซื้อแฟรนไชส์ควรสอบถามเจ้าของร้านหรือพนักงานที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเรื่องลูกค้า รายได้ ยอดขาย ว่าสม่ำเสมอทุกเดือนหรือไม่ เพื่อจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่การตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาด
ถ้าจะให้ดีผู้ซื้อแฟรนไชส์ควรที่จะไปเยี่ยมร้านค้าหลายๆ แห่ง เพราะอาจจะเกิดความผิดพลาดในข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้ง หรือการบริหารงานในร้านสาขานั้นๆ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ดังนั้นจึงควรที่จะไปเยี่ยมหลายๆ สาขาเท่าที่จะสามารถให้ข้อสรุปแก่ตัวเองได้ เพื่อเป็นการประมวลและเปรียบเทียบข้อมูลว่ากิจการแฟรนไชส์นั้นน่าลงทุนหรือไม่
ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สุดในการตัดสินใจเลือกซื้อแฟรนไชส์ เพราะธุรกิจที่เพิ่งเปิดดำเนินการหรือมีอายุเพียงแค่ 1-2 ปี นั่นหมายความว่าธุรกิจนั้นย่อมขาดประสบการณ์ที่เพียงพอ และไม่มีทางที่จะให้คำปรึกษาที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นจึงควรตัดตัวเลือกนี้ทิ้งไปเป็นอันดับแรกสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ที่เปิดขึ้นมาแค่ไม่กี่ปี เพราะนอกจากจะยังไม่สามารถพิสูจน์ความสำเร็จของตัวเองได้แล้ว ยังมีความเสี่ยงสูงสำหรับนักลงทุน
ถึงแม้ว่าจะเป็นการยากที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะล่วงรู้ถึงตัวเลขและผลกำไรในธุรกิจนั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือต้องเกรงใจที่จะยิงคำถามตรงๆ กับเจ้าของแฟรนไชส์ โดยคำตอบที่ได้อาจเป็นการคำนวณอย่างคร่าวๆ แต่อย่างน้อยก็จะสามารถนำมาเปรียบเทียบได้ว่าธุรกิจนั้นๆ น่าลงทุนแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ข้อที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดที่ต้องพิจารณาให้มากที่สุดคือ ตัวผู้ซื้อแฟรนไชส์เองมีความตั้งใจและพร้อมที่จะต่อสู้มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ส่วนมากยังเข้าใจผิดอยู่ก็คือ คิดว่าเมื่อกำเงินมาลงทุนซื้อแฟรนไชส์แล้วจะต้องได้กำไรกลับคืนมาแน่นอน และคาดหวังว่าบริษัทแม่จะเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ แต่ในความเป็นจริงก็คือ ความสำเร็จของธุรกิจจะเกิดขึ้นได้ ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวผู้ประกอบการเองที่มีความเอาใจใส่และรอบรู้ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์จะมาจากตัวผู้ลงทุนเอง ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์คือความช่วยเหลือในการก่อตั้งของบริษัทแม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น